วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2561

          “สมคิด” สั่งมหาวิทยาลัยปั๊มวิศวกร

“สมคิด” สั่งมหาวิทยาลัยปั๊มวิศวกร

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ขับเคลื่อน Thailand 4.0 ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม : Thailand 4.0 in the Making” ว่า เมื่อ 3 ปีก่อนที่เริ่มเข้ามาทำงานให้รัฐบาลชุดนี้ได้บอกกับทีมงานเศรษฐกิจ ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศใน 2 ประการ คือ ต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับรายได้ของประชาชน การทำสองสิ่งได้นี้หัวใจอยู่ที่การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ก็พัฒนามาด้วยสิ่งนี้ ขณะที่ไทยต้องตอบคำถามให้ได้ว่ามีทั้งทรัพยากรและคน แต่ทำไมสู้เขาไม่ได้ ยังผลิตสินค้าเกษตรที่ราคาตกต่ำ รายได้เกษตรกร 20-30 ล้านคน อยู่ได้ด้วยการขายสินค้าเกษตรที่ไม่มีมูลค่า ไม่เพิ่มมูลค่า ผ่านมาหลายรัฐบาล ไม่มีใครตีแตกโจทย์นี้ได้ว่า มีสาเหตุเพราะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม“นโยบายการสร้างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เป็นหัวใจสำคัญที่รัฐบาลชุดนี้ประกาศมาตลอด โดยที่รัฐบาลอื่นก่อนหน้านี้แม้จะเน้น แต่ว่าขาดความจริงใจในการสานต่อ ผมได้ขอร้องมหาวิทยาลัย วันนี้ทุกมหาวิทยาลัยตื่นตัวมาเข้าร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผมบอกไปว่าประเทศไทยวิทยาศาสตร์ไม่เจริญ ไม่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพราะคนของเราไม่ตื่นตัว เวลาที่จะเข้าเรียนวิศวกรรม ไปสมัครเข้าเรียน ปีหนึ่งสอบได้
ไม่กี่พันคนทั่วประเทศ ขณะที่https://www.thairath.co.th/content/1428465ประเทศอื่นผลิตวิศวกรได้เป็นล้านคน มหาวิทยาลัยต้องตีโจทย์ข้อจำกัดนี้ให้แตก และสภาวิศวกรรมต้องแก้ไขประเด็นนี้ เพื่อให้ประเทศไทยสร้างวิศวกรจำนวนมากขึ้นมาให้ได้”
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยต้องผลิตสิ่งใหม่ๆด้วยนวัตกรรม และเอานวัตกรรมนั้นไปสู่เชิงพาณิชย์ ทำเป็นสตาร์ตอัพขึ้นมา สิ่งแรกต้องทำให้เด็กไทยทุกคนเห็นเรื่องวิทยาศาสตร์สำคัญที่สุด ต้องให้คนไทยทุกคนรู้ว่า วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสามารถทำให้เพิ่มมูลค่าได้ อย่างไรก็ตาม ต่อให้ทุ่มงบประมาณลงไป 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แต่หากขาดความตื่นตัวของคนไทยและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยไม่เอื้ออำนวยให้ใช้ความคิดเหล่านี้ก็สำเร็จไม่ได้ ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่มหาวิทยาลัยที่ต้องเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตร์ให้กว้างที่สุด และใครเรียนวิทยาศาสตร์ต้องสามารถตั้งตัวได้ สร้างธุรกิจได้.
ขอบคุณ
https://www.thairath.co.th/content/1428465
     เอกสารดาวโหลด

 ทำนายอนาคต! 7 เทรนด์เทคโนโลยีมาแรง น่าจับตามองในปี 2562


ทำนายอนาคต! 7 เทรนด์เทคโนโลยีมาแรง น่าจับตามองในปี 2562

ในช่วงปีที่ผ่านมา ประเด็นการใช้ประโยชน์ทางลบของโซเชียลมีเดียและ AI ได้รับการจับตามองจากสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ดีพเฟค” (Deepfake) หรือรูปแบบของข้อมูลปลอมที่แพร่กระจายทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งคาดว่าในปี 2562 จะเกิดเนื้อหาประเภท “ดีพเฟค” มากขึ้น เนื่องจากการทำงานของโมเดลอัลกอธิรึ่มที่เรียกว่า GANs ที่มีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น และเรียนรู้เร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นอุปสรรคอย่างมากในอนาคตต่อการแยกแยะระหว่างข้อมูลจริงกับข้อมูลปลอมในโลกดิจิทัล
ทั้งนี้ ดีพเฟค จะเข้ามามีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้นในการรณรงค์หาเสียง ซึ่งจะเข้ามาปั่นปวนและให้ข้อมูลเท็จต่อสาธารณชน โดยในปี 2562 ที่จะถึงนี้ ประเทศมหาอำนาจถึง 2 ประเทศ ได้แก่ อินเดียและสหรัฐอเมริกา มีกำหนดจัดการเลือกตั้งและเริ่มรณรงค์หาเสียงประธานาธิบดี
นอกจากนี้ ในปี 2562 จะเริ่มเห็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต โอเปอเรเตอร์และหน่วยงานกำกับดูแลจริงจังกับการกำจัดและสร้างภูมิคุ้มกันในการต่อกรกับดีพเฟคคอนเทนต์มากขึ้น
 ขอบคุณ
https://www.thairath.co.th/content/1436788
เอกสารดาวโหลด
เทคโนโลยี “อาคารที่เข้าใจพนักงาน”

การรับรู้นั้น ได้มาจากการที่ทีมวิจัยติดเซนเซอร์ภายในอาคาร เพื่อเก็บข้อมูลของผู้ที่อยู่ภายใน ทั้งระดับความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งเซนเซอร์นี้จะวัดค่าจากรูม่านตาที่เป็นประตูสู่หัวใจ เหมือนกับในภาพยนตร์ไซไฟทีเดียว
แมทธิว โค้ทซิน ทีมวิจัยอีกคน อธิบายว่า การใช้รูม่านตาเป็นตัวชี้วัดนั้น จะเกิดขึ้นเวลาพนักงานเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน จากหน้าคอมพิวเตอร์ เป็นหน้ากระดาษเอกสาร ซึ่งต้องใช้แสงที่มากขึ้น รูม่านตาของพนักงานจะปรับแสงให้กับเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และด้วยระบบ machine learning จะช่วยตอบสนองผ่านดารปรับแสงไฟให้เข้ากับความต้องการได้ทันใจ
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :www.voathai.com

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เริ่มต้น

                เว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นเพื่อสะสมผลงาน